5 ข้อดีของ “น้ำตาล” ที่ช่วยให้ “โรคเล่นงาน” ได้ไวขึ้น!

ไม่ว่าจะน้ำอัดลม น้ำชา กาแฟ ขนมหวาน หรือแม้แต่อาหารที่ทานกันทุกวันนี้ ล้วนแล้วแต่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบทั้งสิ้น แถมอาหารบางชนิดอาจจะอุดมไปด้วยน้ำตาลที่มากเกิดความจำเป็นต่อร่างกายอีกต่างหาก ทั้งที่เราควรจะบริโภคน้ำตาลให้น้อยกว่า 10% ต่อหนึ่งวัน เพราะน้ำตาลนั้นไม่มีคุณค่าทางอาหารใด ๆ นอกจากจะเป็นแหล่งพลังงานเพียว ๆ และประโยชน์เพียงอย่างเดียวของน้ำตาลนอกจากให้พลังงานแล้วก็คือ ช่วยนำพาสุขภาพที่ไม่ดี พร้อมโรคภัยต่าง ๆ มาให้คุณ!

แล้วโรคอะไรที่น้ำตาลจะนำมาฝากร่างกายคุณบ้าง หากอยากปลอดภัยจากการโดนน้ำตาลเล่นงาน รีบเลื่อนลงไปอ่านได้เลยครับ

 

1. น้ำตาล ทำให้เสี่ยงโรคหัวใจ

การทานอาหารที่มีน้ำตาลมาก ๆ อาจนำไปสู่โรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้หลายอย่าง รวมถึงโรคหัวใจ อันเป็นหนึ่งในโรคที่คร่าชีวิตผู้คนไปเยอะที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากน้ำตาลจะทำให้เกิดโรคอ้วน, น้ำตาลในเลือด และความดันเลือดสูง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่นำไปสู่โรคหัวใจทั้งสิ้น นอกจากนี้แล้วการรับน้ำตาลเข้าร่างกายมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล อาจจะทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแข็ง หรือไขมันในเลือดสูง

มีงานวิจัยจากผู้คนกว่า 30,000 คน พบว่า ผู้ที่ได้รับพลังงานจากน้ำตาล 17-21% มีโอกาสเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจมากกว่าผู้ที่รับพลังงานจากน้ำตาลน้อยถึง 38% 

ทั้งนี้แค่น้ำหวานปริมาณ 473 มล. ก็มีน้ำตาลถึง 52 กรัม ซึ่งมากเกินกว่าขีดจำกัดที่เหมาะสมในการบริโภคน้ำตาลต่อวันแล้ว จะกินหรือดื่มอะไร อย่าลืมเช็กปริมาณน้ำตาลให้ดีนะครับ

 

2. กินน้ำตาล เพิ่มโอกาสเป็น “มะเร็ง”

การบริโภคน้ำตาลที่มากเกินความจำเป็น อาจเพิ่มโอกาสในการเป็นโรคมะเร็งบางชนิดมากยิ่งขึ้น เพราะการทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่มีส่วนผสมของน้ำตาลเยอะ ๆ จะนำไปสู่ภาวะอ้วน ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ยิ่งไปกว่านั้น การกินอาหารที่มีน้ำตาลเยอะ ๆ จะเพิ่มการอักเสบภายในร่างกาย ซึ่งนำไปสู่อาการดื้อต่ออินซูลิน และทั้งสองอย่างนี้ล้วนแล้วแต่เป็นภาวะที่เอื้อให้เกิดโรคมะเร็งทั้งสิ้น

ในงานวิจัยจากผู้คนกว่า 430,000 คน พบว่า การกินอาหารที่มีน้ำตาลสูง มีส่วนเป็นอย่างมากที่จะทำให้เกิด โรคมะเร็งหลอดอาหาร,  มะเร็งเยื่อหุ้มปอด และมะเร็งลำไส้เล็ก อีกด้วย

 

3. น้ำตาล ก็ก่อให้เกิด “ภาวะไขมันพอกตับ” ได้

 

การรับฟรุกโตสเข้าไปมาก ๆ จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเกิดภาวะไขมันพอกตับ เนื่องจากน้ำตาลฟรุกโตสนั้น ร่างกายจะไม่สามารถดึงไปใช้เป็นพลังงานได้ทันทีเหมือนน้ำตาลกลูโคส หรือน้ำตาลประเภทอื่น ดังนั้นน้ำตาลฟรุกโตสจะถูกส่งไปยังตับก่อน เพื่อเปลียนให้เป็นพลังงาน หรือเก็บสำรองเอาไว้ในรูปไกลโคเจน แต่หากได้รับมากเกิน ส่วนเกินนั้นจะกลายเป็นไขมัน

ดังนั้นฟรุกโตสที่อยู่ในเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ดื่มเข้าไปมาก ๆ นั้น ก็อาจจะทำให้เกิด “ภาวะไขมันพอกตับ” ได้ แม้จะไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ก็ตาม โดยมีงานวิจัยรองรับว่า ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลแบบนี้ จะมีโอกาสเกิดภาวะไขมันพอกตับมากขึ้นถึง 56%  เลยทีเดียว

 

4. น้ำตาล หวาน อร่อย แถมเร่งให้ผิวแก่ไวขึ้น

ริ้วรอยเป็นสัญญาณแห่งอายุที่มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยต้อนรับนัก และมักจะหาวิธีป้องกัน และยื้อให้ความแก่นั้นมาช้าที่สุด หลายคนอาจจะหาซื้อครีมดี ๆ แพง ๆ มาใช้ หรือเข้าคลีนิกหมดเงินไปหลายพัน แต่ถ้าหากยังกินน้ำตาลมาก ๆ ทุกวัน เงินที่เสียไปนั้นอาจจะไม่ช่วยอะไร เพราะน้ำตาล จะเป็นตัวเร่งความไวให้ผิวของคุณแก่เร็วขึ้น

การรับประทานคาร์โบไฮเดรตแปรรูป และน้ำตาลเข้าไปมาก ๆ จะทำให้เกิดการผลิตสาร AGEs ซึ่งเป็นสารหลักที่เกี่ยวข้องกับการแก่ของผิว ซึ่งอาจจะทำให้ผิวของคุณแก่เกินวัย โดยสาร AGEs จะไปทำลายคอลลาเจน และอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนที่อุ้มผิวให้เต่งตึง ไม่หย่อนคล้อย ยิ่งมีเยอะผิวก็ยิ่งเต่งตึง แต่เมื่อคอลลาเจนและอีลาสตินถูกทำลาย ความกระชับของผิวก็จะหายไปด้วย ซึ่งจะทำให้ผิวหย่อนคล้อยมากขึ้นด้วย

 

5. กินน้ำตาล เสี่ยงเบาหวานมากขึ้น

แค่พูดชื่อโรคเบาหวาน ใคร ๆ ก็คงพอเดาได้ว่า ต้องมีสาเหตุเชื่อมโยงกับน้ำตาลแน่นอน เนื่องจากภาวะอ้วนนั้น ส่วนมากแล้วมักเกิดจากการรับน้ำตาลเข้าร่างกายมากเกินไป และกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานได้มากที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น การกินน้ำตาลเข้าไปมาก ๆ เป็นเวลานาน จะทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง อันเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิดโรคเบาหวานได้ โดยมีงานวิจัยจาก 175  ประเทศ พบว่าภาวะเสี่ยงเบาหวานนั้นจะสูงขึ้น 1.1% ต่อทุก ๆ การดื่มน้ำอัดลม 1 กระป๋อง/วัน แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่แค่น้ำอัดลม การดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล อย่างน้ำผลไม้เอง ก็สามารถนำไปสู่โรคเบาหวานได้เช่นกัน

 

การบริโภคน้ำตาลมากเกินไป ส่งผลลัพธ์ที่ไม่ดีมากมายต่อร่างกายของเรา ไม่ว่าจะเป็นอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ที่กินดื่มกันทุกวัน ก็อาจนำไปสู่โรคเรื้อรังทั้งหลายได้ ดังนั้นในทุก ๆ วันเราไม่ควรมองข้ามน้ำตาล แต่ควรเอาใจใส่และจำกัดการรับน้ำตาลเข้าร่างกายในแต่ละวันให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างเช่นการใช้วัตถุดิบอื่น ๆ แทนน้ำตาล หรือทานผลไม้แทนน้ำหวานเพื่อให้ได้รับประโยชน์ และมีปริมาณน้ำตาลอยู่ในระดับที่ไม่เป็นภัย

 

หรือจะเลือกเครื่องดื่มที่ให้ทั้งพลังงาน ทั้งสารอาหารสำคัญที่ดีต่อสุขภาพ และที่สำคัญ ไม่มีน้ำตาล อย่าง กาแฟ สว. คอฟฟี่ พลัส 28 ก็เป็นอีกทางเลือกที่ง่าย ปลอดภัย และดีต่อสุขภาพของคุณได้เช่นกัน

กาแฟผู้สูงอายุ

 โทร  0-2105-4179
? Line@ ? https://line.me/ti/p/@honorherb

 

แหล่งข้อมูล : healthline

ใส่ความเห็น