สาระน่ารู้
ยาที่คุณกิน ยิ่งทำให้คุณเสี่ยง ?
ก.ค.
คนส่วนใหญ่ทานยาเพื่อรักษาโรค และเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง แต่หารู้ไม่ว่า ยาบางประเภทอาจเป็นตัวทำให้ร่างกายคุณป่วยซะเอง เนื่องจากทำให้ระดับคอเลสเตอรอลสูงขึ้น
ในจำนวนประชากรทั้งหมด ก็มีกว่าหลายล้านคนที่มีระดับคลอดเรสเตอรอลสูง ซึ่งการทีมีระดับคลอดเรสเตอรอลสูงแบบนี้ จะทำให้เสี่ยงต่อโรคหัวใจมากขึ้น โดยคนส่วนใหญ่มักจะรู้กันว่า การมีคอเลสเตอรอลสูงนั้นสามารถเป็นได้จากพันธุกรรม หรือการทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่อาจไม่เคยรู้ว่า “ยา” ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คลอดเรสเตอรอลสูงได้เช่นกัน
แน่ล่ะว่ายาส่วนใหญ่มักจะมีผลข้างเคียงบ้างไม่มากก็น้อย แต่ว่าหากผลข้างเคียงนั้นเกี่ยวข้องกับระดับคอเลสเตอรอลล่ะก็ จะกลายเป็นเรื่องที่ควรต้องระวังขึ้นมาทันที
ยาที่ทำให้คอเลสเตอรอลสูง
แม้บางคนอาจจะคิดว่าผลข้างเคียงเรื่องคอเลสเตอรอลจากยานั้นถือเป็นข้อยกเว้น เพราะยาคงมีข้อดีไปกลบได้ แต่ขอบอกเลยว่า อะไรก็ตามที่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลสูงขึ้น ก็ควรต้องเอาใจใส่ทั้งสิ้น โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ หรือผู้ที่คอเลสเตอรอลสูงอยู่แล้ว ซึ่งหากคุณเป็นกลุ่มเสี่ยงแบบนี้ล่ะก็ อาจจะต้องได้รับการรักษาโดยยาที่ไม่เพิ่มคอเลสเตอรอล
หากจำเป็นต้องซีเรียสกับระดับคอเลสเตอรอล ยาประเภทต่อไปนี้คือยาที่คุณต้องระวัง
1. สเตียรอยด์
ยาประเภทสเตียรอยด์ บางครั้งก็ถูกใช้ในอาการภูมิแพ้ และโรคหอบหืด พอ ๆ กันกับสภาวะอื่น ๆ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าจะมีการเพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ และระดับคอเลสเตอรอลโดยรวมในระดับปานกลาง โดยงานวิจัยกล่าวว่า สเตียรอยด์ที่ใช้ในการรักษาโรคหอบหืด, โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และโรคของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (โรคในกลุ่มโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง) สามารถทำให้คอเลสเตอรอลโดยรวมเพิ่มขึ้นได้
2. โปรเจสติน
ยาฮอร์โมนนี้ มักพบได้ในยาคุมกำเนิด ซึ่งจะมีส่วนในการเพิ่มระดับไขมันร้าย LDL และลดจำนวนไขมันดี HDL งานวิจัยหลายแห่งพบว่าการบำบัดด้วยฮอร์โมนนั้น ไม่ดีต่อโรคหลอดเลือดตีบตัน ปกติแล้วรูปแบบการบำบัดด้วยฮอร์โมน มักจะมีการใช้เอสโตรเจนเดี่ยว ๆ หรือผสมระหว่างเอสโตรเจน กับโปรเจสติน ซึ่งจะมีผลต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด และโรคเส้นเลือดขอดในผู้หญิงได้
3. เรตินอยด์
ยาประเภทนี้มักจะถูกนำมาใช้รักษาปัญหาผิว อย่างเช่นสิว แต่ก็มีส่วนในการเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลได้เช่นกัน เนื่องจากยาชนิดนี้จะอุดมด้วยวิตามิน A ที่มักจะก่อให้เกิดปัญหากับตับ ซึ่งส่งผลให้มีการผลิตคอเลสเตอรอลมากขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องใช้วิตามิน A ในการรักษาสิว อาจจะต้องหมั่นตรวจเช็กไขมัน เพื่อให้มั่นใจว่าคอเลสเตอรอลอยู่ในระดับที่ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
4. เบต้า บล็อกเกอร์
แม้ว่าโดยปกติแล้ว เบต้า บล็อกเกอร์ อาจจะไม่ได้เพิ่มคอเลสเตอรอลในผู้คนส่วนใหญ่ แต่ก็เป็นที่รู้ดีว่าสามารถเพิ่มไขมันในเลือดได้ โดยปกติแล้วเบต้า บล็อกเกอร์ จะนำมาใช้เพื่อรักษาโรคความดันสูง, ภาวะเสี่ยงต่อโรคหัวใจอื่น ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วจะทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์สูงขึ้น
